Get Adobe Flash player

มูลนิธิชัยพัฒนา ส่งมอบนวัตกรรมป้องกันโควิด-19 แบบเคลื่อนที่พัฒนาโดยเอสซีจีให้ รพ.สมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยะลา

มูลนิธิชัยพัฒนา ส่งมอบนวัตกรรมป้องกันโควิด-19 แบบเคลื่อนที่พัฒนาโดยเอสซีจี

ให้ รพ.สมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยะลา ปกป้องแพทย์-พยาบาลจากโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563   มูลนิธิชัยพัฒนาส่งมอบ “นวัตกรรมป้องกันโควิด-19 แบบเคลื่อนที่” (Mobile Isolation Unit) ที่พัฒนาโดยเอสซีจี ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยะลา สนองพระราชกระแสรับสั่งในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการเร่งบรรเทาทุกข์ประชาชน ด้วยการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันบุคลากรการแพทย์จากการติดเชื้อโควิด-19 มั่นใจนวัตกรรมเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้บุคลากรการแพทย์ ทั้งยังใช้งานง่าย ติดตั้ง-เคลื่อนย้ายสะดวก ตอบโจทย์การใช้ในโรงพยาบาล แม้ในโรงพยาบาลที่ห่างไกล

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า “จากสถานการณ์ความรุนแรงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรู้สึกห่วงใยพี่น้องชาวไทยที่กำลังเผชิญปัญหากันอยู่ในขณะนี้ จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนาเป็นช่องทางในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชน ด้วยการจัดหาอุปกรณ์และสิ่งของที่มีความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ผ่าน “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด-19 (และโรคระบาดต่าง ๆ)”

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา

โดยมูลนิธิฯ ได้จัดสรรงบประมาณของมูลนิธิฯ และเงินบริจาคสนับสนุนที่ได้รับจากภาคเอกชน และภาคประชาชน นำไปจัดหาอุปกรณ์ที่ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรแพทย์ให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละโรงพยาบาล โดยในเบื้องต้นจะนำไปส่งมอบโรงพยาบาล 4 แห่ง คือ โรงพยาบาลยุพราชยะหา จ.ยะลา โรงพยาบาลมหาราช นครเชียงใหม่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น และจะเร่งกระจายความช่วยเหลือไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้ทีมแพทย์-พยาบาล และผู้ป่วย

ทั้งนี้ มูลนิธิฯ จะนำ “นวัตกรรมป้องกันโควิด-19 แบบเคลื่อนที่” ของเอสซีจี ไปส่งมอบที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยะลาเป็นแห่งแรก เพราะนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในขณะปฏิบัติงานตรวจรักษาผู้ป่วยแล้ว นวัตกรรมนี้ยังสะดวกในการใช้งาน สามารถติดตั้งได้ง่าย และเคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะสมกับโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ห่างไกล โดยกลุ่มธุรกิจโคคาโคล่า ในประเทศไทย จะช่วยสนับสนุนการขนส่งไปยังโรงพยาบาลดังกล่าว”

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี

ด้าน นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี เปิดเผยว่า     “เอสซีจีรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชกระแสรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดหาอุปกรณ์ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 เพื่อนำไปใช้ในการป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ ตามโรงพยาบาลที่ขาดแคลน และเอสซีจีได้มีส่วนร่วมในการผลิตนวัตกรรมต่างๆ ที่ใช้ป้องกันโรคดังกล่าว เพื่อนำไปส่งมอบตามพระราชปณิธาน

ที่ผ่านมา เอสซีจีได้นำความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่มีอยู่ เร่งพัฒนานวัตกรรมป้องกันโควิด-19 ร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ออกมาเป็นนวัตกรรมที่หลากหลาย และสามารถผลิตมาใช้งานได้ในเวลาอันรวดเร็ว ได้แก่ กลุ่มนวัตกรรมป้องกันโควิด-19 แบบเคลื่อนที่ (Mobile Isolation Unit)  และ นวัตกรรมห้องตรวจและคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยง (Modular Screening & Swab Unit) โดยก่อนหน้านี้ มูลนิธิเอสซีจีได้สนับสนุนงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท เพื่อนำนวัตกรรมเหล่านี้ไปทยอยส่งมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ ที่ขาดแคลน เอสซีจีหวังว่า นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย บวกกับพลังน้ำใจจากผู้ร่วมบริจาค จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้บุคลากรการแพทย์พร้อมสู้ไปด้วยกันอย่างเข้มแข็งและปลอดภัย”

ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ดูแลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ด้าน นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวว่า “ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี       ได้พัฒนานวัตกรรมป้องกันโควิด-19 แบบเคลื่อนที่ หรือ Mobile Isolation Unit ร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานจริงของแพทย์มากที่สุด  Mobile Isolation Unit นี้ มีนวัตกรรมหลักอยู่ทั้งหมด 5 ตัว จุดเด่นคือ นอกจากจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อสู่บุคลากรการแพทย์ด้วยระบบควบคุมความดันอากาศที่มีประสิทธิภาพ เเละระบบกรองอากาศระดับ HEPA ที่ช่วยกรองอากาศให้สะอาด ปลอดภัยแล้ว ยังตอบโจทย์เรื่องความสะดวกในการใช้งานอย่างมาก เพราะสามารถติดตั้งรื้อถอนได้ง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก

โครงสร้างทุกชิ้นแข็งแรง ใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบหลัก เนื่องจากมีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน  สำหรับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยะลา ที่มูลนิธิชัยพัฒนาจะนำนวัตกรรมในกลุ่ม Mobile Isolation Unit ไปส่งมอบ จะมีด้วยกัน 3 นวัตกรรมในกลุ่มนี้ คือ ห้องแยกป้องกันเชื้อความดันลบ ห้องตรวจเชื้อความดันลบหรือบวกแบบเคลื่อนที่ และแคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางเลือกสำหรับโรงพยาบาล ที่จะช่วยปกป้องบุคลากรการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลพวกเรา ให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้”

นวัตกรรมป้องกันโควิด-19 แบบเคลื่อนที่ หรือ Mobile Isolation Unit  ประกอบด้วย 5 นวัตกรรมหลัก ได้แก่

ห้องตรวจเชื้อความดันลบหรือบวกแบบเคลื่อนที่

ห้องแยกป้องกันเชื้อความดันลบแบบเคลื่อนที่

อุปกรณ์ครอบศีรษะคนไข้เพื่อป้องกันเชื้อสำหรับงานทันตกรรม

แคปซูลความดันลบขนาดเล็ก สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อเข้าเครื่อง CT Scan

ห้องตรวจเชื้อความดันลบหรือบวกแบบเคลื่อนที่ 

  • ห้องแยกป้องกันเชื้อความดันลบ (Negative Pressure Isolation Room) อุปกรณ์เสริมพิเศษที่ออกแบบให้เหมาะกับปฏิบัติการในห้องฉุกเฉิน ห้องไอซียู หรือแม้แต่เป็นห้องพักผู้ป่วย เพื่อให้แพทย์และพยาบาลสามารถรักษาผู้ป่วยหนักได้ทันท่วงที โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและอุปกรณ์ช่วยชีวิตอื่น ๆ
  • ห้องตรวจเชื้อความดันลบหรือบวกแบบเคลื่อนที่ (Negative / Positive Pressure Isolation Chamber) ห้องตรวจที่ช่วยให้แพทย์และพยาบาลสามารถสอดมือเข้าไปทำหัตถการ (Swab) โดยไม่ต้องสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย ออกแบบเป็นทรงกระบอกแนวตั้ง ทางเข้าเป็นซิปรูดสำหรับเปิด-ปิด เพื่อให้สะดวกในการใช้งาน
  • แคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบ (Patient Isolation Capsule) อุปกรณ์ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
  • แคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบขนาดเล็ก สำหรับเข้าเครื่อง CT Scan (Small Patient Isolation Capsule for CT scan)  อุปกรณ์ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้าเครื่อง CT Scan
  • อุปกรณ์ครอบศีรษะคนไข้เพื่อป้องกันเชื้อสำหรับงานทันตกรรม (DENT Guard) ป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อระหว่างการทำงานทันตกรรม

อย่างไรก็ตาม ยังมีโรงพยาบาลทั่วประเทศอีกจำนวนมากที่ต้องการนวัตกรรมเพื่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19
ผู้ที่สนใจอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ สามารถบริจาคเงินสมทบ “มูลนิธิชัยพัฒนา” ผ่านบัญชี “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่าง ๆ)” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสวนจิตรลดา บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 067-300487-3 โทร.02-2447-8585 ถึง 8 ต่อ 109 / 121 / 259 หรือร่วมบริจาคผ่าน “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย” รวมทั้ง “หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย” เพื่อส่งมอบนวัตกรรมต่างๆ ให้โรงพยาบาลที่มีความต้องการ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์ โทร. 02-586-2888 

รายงานข่าว/ธรรญธร เพ็งขุนทด

หนังสือพิมพ์ รวมพลัง
ผู้สนับสนุน

กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม
RPTV ข่าวสารเข้มข้น เพื่อคนตะวันออก
Blog Stats
  • 27,794 hits
Blog Stats
  • 27,794 hits